chaiya tippson เรื่อง บิ๊กไบค์ ทุกรุ่น
เรื่อง บิ๊กไบค์ ทุกรุ่น ตามที่ต้องการ
วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559
แล้วจะรีบสืบสาวมาให้ทราบนะจ๊ะ
วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2559
คุณค่า คอร์ปอเรชั่น ตัวแทนจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ KTM สัญชาติออสเตรีย ในประเทศไทย เผยโฉมโมเดลใหม่ KTM 1290 Super Duke R Special บิ๊กไบค์ตัวท็อปของค่ายรุ่นพิเศษ ในงาน Motor Expo 2014 ณ บูธ KTM ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพคเมืองทองธานีที่จัด 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2557
KTM 1290 Super Duke R Special คืออีกหนึ่งที่สุดของ Naked Bike การันตีด้วยรางวัลสตีรทไบค์ยอดเยี่ยมโดยนิตยสาร Cycle World ด้านดีไซน์ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์สไตล์ KTM ตัวเฟรมและแฟริ่งสีส้ม ที่แซมสีขาว-ดำบ้างเล็กน้อย
เครื่องยนต์ 2 สูบ V-twin ขนาด 1,301 ซีซีให้พลัง 180 แรงม้า แรงบิด 144 นิวตันเมตร ซึ่งเครื่องยนต์รุ่นนี้ให้แรงบิดสูงในรอบที่ต่ำ จากผลทดสอบให้แรงบิด 100 นิวตันเมตรที่ 2500 รอบต่อนาทีเท่านั้น อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ใน 7.2 วินาที
ระบบเบรกแบมโบ ดิสก์เบรกคู่หน้าขนาด 320 มม. หลังดิสก์เบรกเดี่ยว 240 มม. กันสะเทือนหน้าหัวกลับ WP-USD ขนาด 48 มม. กันสะเทือนหลัง WP โมโนโช้ค ระบบสลิปเปอร์คลัช PASC ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 18 ลิตร น้ำหนักรถไม่รวมของเหลว 189 กก.
KTM 1290 Super Duke R Special เปิดราคาจำหน่ายแล้ว 1,389,900 บาท บิ๊กไบค์ Naked ระดับพรีเมียมที่ดีไซน์สวยงามและไม่เหมือนใครจริง ๆ
ktm 1290 แต่ง
พี่ใหญ่สุดจากค่ายยักษ์เขียว Kawasaki Z1000 หน้าเอเลี่ยน Naked Streetbike ดีไซน์สุดล้ำ ที่ให้ฟิลลิ่งการขับขี่ที่ครบครัน
ถ้าพูดถึงรถตระกูล Z จากค่ายยักษ์เขียว หนึ่งในตัวชูโรงที่โดนเด่นเรียกได้ว่า เป็นตัวที่ใช้สำหรับสู้กับค่ายอื่นๆ ระดับแถวหน้าได้ไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว 2014 Kawasaki Z1000 โฉมใหม่ นั้นถือได้ว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ แนวเนคเก็ด Streetbike ที่ใครหลายๆ คนในที่นี้มีความชื่นชอบมากที่สุดคันหนึ่งเลยก็ว่าได้ สำหรับ Kawasaki Z1000 นั้นเป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นมาตรฐานที่ดีที่สุดของปี 2010 และปี 2011 จากนิตยสาร Cycle World และในตอนนี้เองเจ้า Kawasaki Z1000 ตัวใหม่โฉมเวอร์ชั่นของปี 2014 รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่สี่ที่ทางบริษัทเองบอกว่ามีลายเส้นสายที่สวมและคมมากขึ้น ให้ความรู้สึกที่ไม่ได้ดูแต่ดุดันอย่างเดียว แต่มาพร้อมกับการขับขี่ที่นิ่มนวลมากขึ้น ว่าแต่ Kawasaki Z1000 ทำเอาหลายๆ คนมีคำถามข้องใจว่า ค่ายยักษ์เขียวจะทำมอเตอร์ไซค์แบบนี้ออกมาได้จริงๆ หรือนี่
แม้ว่าเจ้ามอเตอร์ไซค์ 2014 Kawasaki Z1000 โฉมใหม่ คันนี้จะเป็นระบบหัวฉีดแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้เป็นแบบ ride-by-wire นั่นหมายถึงว่ามอเตอร์ไซค์ Kawasaki คันนี้ไม่มีระบบ traction control งบางคนอาจจะแย้งว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมอเตอร์ไซค์แนวนี้ อย่างไรก็ตาม แม้การตอบสนองของคันเร่งจะเป็นแบบดิบๆ แต่เจ้าคันนี้ก็ยังสามารถขับขี่ได้ง่ายและมีความนิ่มนวลอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน จะขับขี่ไปในเมืองแบบช้าๆ หรือแม้แต่การเดินคันเร่งแบบเรียกรอบ เจ้ามอเตอร์ไซค์ Kawasaki Z1000 คันนี้มีระบบการจ่ายน้ำมันที่ยอดเยี่ยมของตัวมันเอง และเมื่อถึงจุดที่คุณสามารถเปิดคันเร่งได้เต็มที่แล้วละก็…..ช่องอากาศที่ได้ออกแบบมาใหม่ ที่ทำให้อากาศไหลตรงเข้าไปยัง Air Box มันทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียวแปลงไปภายใต้เส้นสายที่ยังคงไว้ซึ่งความสวยงามนั่นเอง
2014 Kawasaki Z1000 คันนี้วิ่งได้ด้วยความเร็วจากระบบส่งกำลังช่วยสุดท้ายที่สั้นกว่า Ninja 1000 โฉมเดิม แลละยิ่งไปความนั้นการขับขี่เจ้ายักษ์โฉมใหม่ ยังดูผ่อนคลายมากกว่า บนถนนหลวงที่สามารถใช้ความเร็วสูงๆ ได้ ด้วยเกียร์ 6 ที่ช่วงความเร็วที่ยาวกว่า ระดับความเร็ว 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยทำรอบไปเพียง 5,000 ต่อนาทีที่แสดงข้อมูลบนแผงหน้าปัด
สำหรับจุดโดดเด่นอื่นๆ ของบิ๊กไบค์คันนี้ การขับขี่ เรียกได้ว่าประทับใจมากครับ ขับได้อย่างสบายๆ ทั้งในเมืองแบบเบาๆ ไม่ว่าจะทะยานออกจากสี่แยกไฟแดง ไฟเขียวต่างๆ รวมไปถึงการชะลอรถและผ่อนคันเร่งก่อนจะติดไฟแดง หรือแม้แต่ทางลาดชัน คดเคี้ยวไปตามหุบเขา ก็ขับขี่ได้สนุก รวมไปถึงระบบกันสะเทือนที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันมั่นคง และให้ความรู้สึกนุ่มนวลในขณะที่มีความเร็วสูงๆ แรงบิดที่มีช่วงเปิดกว้างและเฟืองท้ายที่เหลือๆ ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ ลักษณะของการเปลี่ยนเกียร์ก็ทำได้โดยง่ายดาย ไม่มีผิดพลาด การจับของคลัชประสานกับคันเร่งและระบบเกียร์เองก็เป็นไปได้ดังใจสั่ง
ด้วยน้ำหนักรถที่มีน้ำหนัก 487 ปอนด์ และด้วยความพยายามของทางค่ายยักษ์เขียวเอง ที่ต้องการจะทำให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ในตำแหน่งที่พอดี ทำให้ 2014 Kawasaki Z1000 คันนี้เข้าโค้งและเอียงได้ดี โดยคันนี้นั้นมาพร้อมกับระบบการบังคับเลี้ยวที่แม่นยำไม่หักเลี้ยงเร็วจนเกินไป มุมองศาต่างๆ ของรถก็จะเหมือนกับ เจ้า Kawasaki Ninja 1000 มุม rake ที่ 24.5 และค่าเทรลที่ 4 นิ้ว
ทางค่ายยักษ์เขียว Kawasaki ยังได้นำ 2013 Z1000 มาให้เปรียบเทียบด้วย จะเห็นได้ว่า Z1000 ตัวใหม่นั้นจะมีลักษณะของเบาะที่ต่ำกว่า โดยท่านั่งจะออกไปด้านหน้ามากขึ้น รู้้สึกออกแนวสปอร์ทมากขึ้น และหลบลมปะทะได้ดีขึ้น ซึ่งเหมาะมากหากคุณต้องใช้มอเตอร์ไซค์คันนี้เดินทางในระยะไกล ยิ่งไปกว่านั้นการตอบสนองของคันเร่งของ Z1000 นั้นเหมือนจะดีกว่า และระบบกันสะเทือนนั่นแน่นกว่า
ทาง Kawasaki ยังได้นำ 2013 Z1000 มาให้เปรียบเทียบด้วย ผมลองดูแล้วพบว่าชอบเบาะที่สูงกว่าและท่านั่งตรงของรุ่นปี 2013 มากกว่า ซึ่งเหมาะสำหรับนักบิดที่ตัวสูงกว่ามอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่นี้ นั่นหมายถึงว่า 2014 Z1000 ตัวใหม่นั้นเบาะตำกว่า ท่านั่งจะออกไปด้านหน้ามากขึ้น รู้้สึกออกแนวสปอร์ตมากยิ่งขึ้น และหลบลมปะทะได้ดีขึ้น ซึ่งเหมาะมากหากคุณต้องใช้มอเตอร์ไซค์คันนี้เดินทางในระยะไกล ยิ่งไปกว่านั้นการตอบสนองของคันเร่งของ Z1000 นั้นเหมือนจะดีกว่า และระบบกันสะเทือนนั่นแน่นสรุปโดยภาพรวมๆ แล้วถือว่ามอเตอร์ไซค์ 2014 Kawasaki Z1000 โฉมใหม่ คันนี้ถือเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สุดยอดคันหนึ่ง คุณอาจจะมองว่าสไตล์เท่านั้นที่ดูสวย แต่ความจริงแล้วทาง Kawasaki ได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมในหลายๆส่วนมากแม้จะเป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นที่ดีอยู่แล้วก็ตาม แต่ถามว่ามันจะตีคู่แข่งอย่าง Yamaha FZ-09 หรือ Aprillia Tuono V4 R หรือ MV Agusta Brutale 800 หรือไม่นั้น เราคงได้ทราบกัน หลังจากที่ขอเวลาขับมอเตอร์ไซค์คันใหม่นี้ซักระยะนึงก่อนนั่นเอง
z1000แต่งโหด
ถ้าพูดถึงรถตระกูล Z จากค่ายยักษ์เขียว หนึ่งในตัวชูโรงที่โดนเด่นเรียกได้ว่า เป็นตัวที่ใช้สำหรับสู้กับค่ายอื่นๆ ระดับแถวหน้าได้ไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว 2014 Kawasaki Z1000 โฉมใหม่ นั้นถือได้ว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ แนวเนคเก็ด Streetbike ที่ใครหลายๆ คนในที่นี้มีความชื่นชอบมากที่สุดคันหนึ่งเลยก็ว่าได้ สำหรับ Kawasaki Z1000 นั้นเป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นมาตรฐานที่ดีที่สุดของปี 2010 และปี 2011 จากนิตยสาร Cycle World และในตอนนี้เองเจ้า Kawasaki Z1000 ตัวใหม่โฉมเวอร์ชั่นของปี 2014 รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่สี่ที่ทางบริษัทเองบอกว่ามีลายเส้นสายที่สวมและคมมากขึ้น ให้ความรู้สึกที่ไม่ได้ดูแต่ดุดันอย่างเดียว แต่มาพร้อมกับการขับขี่ที่นิ่มนวลมากขึ้น ว่าแต่ Kawasaki Z1000 ทำเอาหลายๆ คนมีคำถามข้องใจว่า ค่ายยักษ์เขียวจะทำมอเตอร์ไซค์แบบนี้ออกมาได้จริงๆ หรือนี่
คำตอบก็คงตอบให้หายข้องใจกันไปแล้ว เมื่อได้เปิดตัวและเปิดโฉมกันออกมาให้เห็นกันไปแล้วนั่นเอง จากการที่ได้ทดลองขับขี่เจ้ามอเตอร์ไซค์ 2014 Kawasaki Z1000 โฉมใหม่ หน้าเอเลี่ยน คันใหม่นี้ ความรู้สึกบอกกันไปเลยครับว่ามันเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ออกแนวสปอร์ตมาก ดูดุดันมากขึ้น ดูจากรูปลักษณ์ก็บ่งบอกให้เรารู้ได้ทันทีว่ามันมีหลายๆ อย่างที่เปลี่ยน
เรามาเริ่มต้นกันเลยที่ขนาดของเครื่องยนต์ขับส่งกำลังที่มีขนาด 1,043 ซีซีแบบสี่สูบเรียง ได้มีการปรับแต่งเพื่อเพิ่มแรงบิตในช่วงกลางและช่วงปลายให้มีกำลังที่มากขึ้น ด้วยแคมชาฟ์ทใหม่ที่ยกสูงขึ้นมากกว่ารุ่นเดิม 0.3 มม. และองศาจุดระเบิดน้อยลงกว่าเดิม 6 องศาพร้อมกล่องอากาศที่ปรับปรุงใหม่ ระบบกล่อง ECU ที่ได้รับการปรับปรุง พร้อมรายละเอียดอื่นๆ อีกหลายรายการที่เกี่ยวข้องกับระบบเครื่องยนต์ จนถึงช่องดักลมคู่หน้าตรงแฟร์ริ่ง ที่ออกแบบมาให้อากาศเย็นเข้ามายังกล่องอากาศโดยตรงนั่นเองแม้ว่าเจ้ามอเตอร์ไซค์ 2014 Kawasaki Z1000 โฉมใหม่ คันนี้จะเป็นระบบหัวฉีดแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้เป็นแบบ ride-by-wire นั่นหมายถึงว่ามอเตอร์ไซค์ Kawasaki คันนี้ไม่มีระบบ traction control งบางคนอาจจะแย้งว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมอเตอร์ไซค์แนวนี้ อย่างไรก็ตาม แม้การตอบสนองของคันเร่งจะเป็นแบบดิบๆ แต่เจ้าคันนี้ก็ยังสามารถขับขี่ได้ง่ายและมีความนิ่มนวลอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน จะขับขี่ไปในเมืองแบบช้าๆ หรือแม้แต่การเดินคันเร่งแบบเรียกรอบ เจ้ามอเตอร์ไซค์ Kawasaki Z1000 คันนี้มีระบบการจ่ายน้ำมันที่ยอดเยี่ยมของตัวมันเอง และเมื่อถึงจุดที่คุณสามารถเปิดคันเร่งได้เต็มที่แล้วละก็…..ช่องอากาศที่ได้ออกแบบมาใหม่ ที่ทำให้อากาศไหลตรงเข้าไปยัง Air Box มันทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียวแปลงไปภายใต้เส้นสายที่ยังคงไว้ซึ่งความสวยงามนั่นเอง
2014 Kawasaki Z1000 คันนี้วิ่งได้ด้วยความเร็วจากระบบส่งกำลังช่วยสุดท้ายที่สั้นกว่า Ninja 1000 โฉมเดิม แลละยิ่งไปความนั้นการขับขี่เจ้ายักษ์โฉมใหม่ ยังดูผ่อนคลายมากกว่า บนถนนหลวงที่สามารถใช้ความเร็วสูงๆ ได้ ด้วยเกียร์ 6 ที่ช่วงความเร็วที่ยาวกว่า ระดับความเร็ว 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยทำรอบไปเพียง 5,000 ต่อนาทีที่แสดงข้อมูลบนแผงหน้าปัด
สำหรับจุดโดดเด่นอื่นๆ ของบิ๊กไบค์คันนี้ การขับขี่ เรียกได้ว่าประทับใจมากครับ ขับได้อย่างสบายๆ ทั้งในเมืองแบบเบาๆ ไม่ว่าจะทะยานออกจากสี่แยกไฟแดง ไฟเขียวต่างๆ รวมไปถึงการชะลอรถและผ่อนคันเร่งก่อนจะติดไฟแดง หรือแม้แต่ทางลาดชัน คดเคี้ยวไปตามหุบเขา ก็ขับขี่ได้สนุก รวมไปถึงระบบกันสะเทือนที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันมั่นคง และให้ความรู้สึกนุ่มนวลในขณะที่มีความเร็วสูงๆ แรงบิดที่มีช่วงเปิดกว้างและเฟืองท้ายที่เหลือๆ ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ ลักษณะของการเปลี่ยนเกียร์ก็ทำได้โดยง่ายดาย ไม่มีผิดพลาด การจับของคลัชประสานกับคันเร่งและระบบเกียร์เองก็เป็นไปได้ดังใจสั่ง
ด้วยน้ำหนักรถที่มีน้ำหนัก 487 ปอนด์ และด้วยความพยายามของทางค่ายยักษ์เขียวเอง ที่ต้องการจะทำให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ในตำแหน่งที่พอดี ทำให้ 2014 Kawasaki Z1000 คันนี้เข้าโค้งและเอียงได้ดี โดยคันนี้นั้นมาพร้อมกับระบบการบังคับเลี้ยวที่แม่นยำไม่หักเลี้ยงเร็วจนเกินไป มุมองศาต่างๆ ของรถก็จะเหมือนกับ เจ้า Kawasaki Ninja 1000 มุม rake ที่ 24.5 และค่าเทรลที่ 4 นิ้ว
ทางค่ายยักษ์เขียว Kawasaki ยังได้นำ 2013 Z1000 มาให้เปรียบเทียบด้วย จะเห็นได้ว่า Z1000 ตัวใหม่นั้นจะมีลักษณะของเบาะที่ต่ำกว่า โดยท่านั่งจะออกไปด้านหน้ามากขึ้น รู้้สึกออกแนวสปอร์ทมากขึ้น และหลบลมปะทะได้ดีขึ้น ซึ่งเหมาะมากหากคุณต้องใช้มอเตอร์ไซค์คันนี้เดินทางในระยะไกล ยิ่งไปกว่านั้นการตอบสนองของคันเร่งของ Z1000 นั้นเหมือนจะดีกว่า และระบบกันสะเทือนนั่นแน่นกว่า
ทาง Kawasaki ยังได้นำ 2013 Z1000 มาให้เปรียบเทียบด้วย ผมลองดูแล้วพบว่าชอบเบาะที่สูงกว่าและท่านั่งตรงของรุ่นปี 2013 มากกว่า ซึ่งเหมาะสำหรับนักบิดที่ตัวสูงกว่ามอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่นี้ นั่นหมายถึงว่า 2014 Z1000 ตัวใหม่นั้นเบาะตำกว่า ท่านั่งจะออกไปด้านหน้ามากขึ้น รู้้สึกออกแนวสปอร์ตมากยิ่งขึ้น และหลบลมปะทะได้ดีขึ้น ซึ่งเหมาะมากหากคุณต้องใช้มอเตอร์ไซค์คันนี้เดินทางในระยะไกล ยิ่งไปกว่านั้นการตอบสนองของคันเร่งของ Z1000 นั้นเหมือนจะดีกว่า และระบบกันสะเทือนนั่นแน่นสรุปโดยภาพรวมๆ แล้วถือว่ามอเตอร์ไซค์ 2014 Kawasaki Z1000 โฉมใหม่ คันนี้ถือเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สุดยอดคันหนึ่ง คุณอาจจะมองว่าสไตล์เท่านั้นที่ดูสวย แต่ความจริงแล้วทาง Kawasaki ได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมในหลายๆส่วนมากแม้จะเป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นที่ดีอยู่แล้วก็ตาม แต่ถามว่ามันจะตีคู่แข่งอย่าง Yamaha FZ-09 หรือ Aprillia Tuono V4 R หรือ MV Agusta Brutale 800 หรือไม่นั้น เราคงได้ทราบกัน หลังจากที่ขอเวลาขับมอเตอร์ไซค์คันใหม่นี้ซักระยะนึงก่อนนั่นเอง
z1000แต่งโหด
บีเอ็มดับเบิลยู
BMW Motorrad Thailand (บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย) เฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปี ในประเทศไทย เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ BMW R nineT (Limited Edition) ผลิตเพียง 15 คันในโลก เสริมทัพมอเตอร์ไซค์ประกอบในประเทศอีก 2 รุ่น BMW S1000R และ BMW S1000RR ฉลอง 15 ปี แห่งความสำเร็จ BMW R nine T บิ๊กไบค์ roadster รูปโฉมเป็นเอกลักษณ์แหวกแนวผสมผสานความคลาสสิก และความทันสมัย ด้วยการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโมเดลระดับคลาสสิกของค่าย อย่างจักรยานยนต์ BMW R32 เพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 90 ปี ของรถมอเตอร์ไซค์ BMW อันมีชื่อเสียงระดับโลก
BMW S1000RR : บิ๊กไบค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ต
BMW S1000RR บิ๊กไบค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ตหนึ่งเดียวของ BMW ดีไซน์สปอร์ตสะดุดตาด้วยการใช้เฉดสีที่หลากหลาย เพิ่มบุคลิกภาพที่ชัดเจนให้กับตัวรถ เน้นแนวทูโทนด้วยการเติมเต็มความเคร่งขรึมของสีดำ Black Storm Metallic หรือความปราดเปรียวของสีแดง Racing Red ที่ตัดด้วยสีขาว Light White หรือจะเป็นชุดสี tricolor เป็นเอกลักษณ์ ประกอบด้วย Light White, Lupin Blue Metallic และ Racing red BMW S1000RR วางเครื่องยนต์ 4 สูบ เพลาราวลิ้นคู่ ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน ขนาดเครื่องยนต์ความจุ 999 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 146 กิโลวัตต์ หรือ 199 แรงม้า ที่ 13,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงถึง 113 นิวตัน-เมตร ที่ 10,500 รอบต่อนาที อัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1 สั่งจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ระบบคลัทช์ทำงานด้วยกลไกแบบเปียกหลายแผ่นซ้อน สั่งงานด้วยเกียร์ 6 สปีด สำหรับรุ่นมาตรฐานในประเทศไทยให้โหมดขับขี่เป็นแบบโปร ซึ่งมีทั้งโหมด Rain, Sport, Race, Slick และUser
BMW Motorrad Thailand (บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย) เฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปี ในประเทศไทย เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ BMW R nineT (Limited Edition) ผลิตเพียง 15 คันในโลก เสริมทัพมอเตอร์ไซค์ประกอบในประเทศอีก 2 รุ่น BMW S1000R และ BMW S1000RR ฉลอง 15 ปี แห่งความสำเร็จ BMW R nine T บิ๊กไบค์ roadster รูปโฉมเป็นเอกลักษณ์แหวกแนวผสมผสานความคลาสสิก และความทันสมัย ด้วยการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโมเดลระดับคลาสสิกของค่าย อย่างจักรยานยนต์ BMW R32 เพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 90 ปี ของรถมอเตอร์ไซค์ BMW อันมีชื่อเสียงระดับโลก
BMW R nine T
BMW R nine T มาพร้อมเครื่องยนต์ Boxer 2 สูบ แบบ Flat twin เพลาราวลิ้นคู่ ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ขนาดเครื่องยนต์ความจุ 1,170 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 81 กิโลวัตต์หรือ 110 แรงม้า ที่ 7,550 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงถึง 119 นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที อัตราส่วนกำลังอัด 12.0:1 สั่งจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ระบบคลัทช์แบบ Single dry plate clutch สั่งงานด้วยไฮดรอลิก เกียร์ 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยเพลาขับ ในโอกาสพิเศษแห่งการดำเนินธุรกิจครบรอบ 15 ปี ของ BMW Group Manufacturing Thailand BMW Motorrad Thailand จึงได้เปิดตัว BMW R nineT (Limited Edition) ซึ่งจัดทำขึ้นพิเศษเพียง 15 คันเท่านั้น พร้อมชุดแต่งพิเศษจาก Roland Sands ได้แก่ Roland Sands Breast Plate และ Roland Sands Valve cover ถังน้ำมันเชื้อเพลิงตกแต่งพิเศษแบบอะลูมิเนียม (Aluminium Fuel tank) รวมถึง Aluminium Tail-hump, Custom Seat, Knee pad และตราสัญลักษณ์พิเศษสำหรับรุ่น Limited Edition
BMW R nine T มาพร้อมเครื่องยนต์ Boxer 2 สูบ แบบ Flat twin เพลาราวลิ้นคู่ ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ขนาดเครื่องยนต์ความจุ 1,170 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 81 กิโลวัตต์หรือ 110 แรงม้า ที่ 7,550 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงถึง 119 นิวตัน-เมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที อัตราส่วนกำลังอัด 12.0:1 สั่งจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ระบบคลัทช์แบบ Single dry plate clutch สั่งงานด้วยไฮดรอลิก เกียร์ 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยเพลาขับ ในโอกาสพิเศษแห่งการดำเนินธุรกิจครบรอบ 15 ปี ของ BMW Group Manufacturing Thailand BMW Motorrad Thailand จึงได้เปิดตัว BMW R nineT (Limited Edition) ซึ่งจัดทำขึ้นพิเศษเพียง 15 คันเท่านั้น พร้อมชุดแต่งพิเศษจาก Roland Sands ได้แก่ Roland Sands Breast Plate และ Roland Sands Valve cover ถังน้ำมันเชื้อเพลิงตกแต่งพิเศษแบบอะลูมิเนียม (Aluminium Fuel tank) รวมถึง Aluminium Tail-hump, Custom Seat, Knee pad และตราสัญลักษณ์พิเศษสำหรับรุ่น Limited Edition
BMW S1000R : naked bike รุ่นใหญ่
ต่อยอดความสำเร็จของมอเตอร์ไซค์ในตระกูล R ด้วยบิ๊กไบค์สายพันธุ์ roadster กับการเปิดตัวโมเดลประกอบในประเทศใหม่ล่าสุด BMW S1000R เครื่องยนต์ 4 สูบ ปริมาตรความจุเครื่องยนต์ 999 ซีซี ระบบจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องฟอกไอเสียแบบ 2 Closed-loop ชนิด 3 ทาง Catalytic converters ให้กำลังสูงสุด 118 กิโลวัตต์หรือ 160 แรงม้า ที่ 11,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงถึง 112 นิวตัน-เมตร ที่ 9,250 รอบต่อนาที ส่งผลให้เครื่องยนต์ของ S1000R มอบสมรรถนะอันยอดเยี่ยม BMW S1000R มีให้เลือก 3 เฉดสี ได้แก่ สีแดง Racing Red สีดำ Black Storm Metallic และ สีขาว Light White
ต่อยอดความสำเร็จของมอเตอร์ไซค์ในตระกูล R ด้วยบิ๊กไบค์สายพันธุ์ roadster กับการเปิดตัวโมเดลประกอบในประเทศใหม่ล่าสุด BMW S1000R เครื่องยนต์ 4 สูบ ปริมาตรความจุเครื่องยนต์ 999 ซีซี ระบบจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องฟอกไอเสียแบบ 2 Closed-loop ชนิด 3 ทาง Catalytic converters ให้กำลังสูงสุด 118 กิโลวัตต์หรือ 160 แรงม้า ที่ 11,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงถึง 112 นิวตัน-เมตร ที่ 9,250 รอบต่อนาที ส่งผลให้เครื่องยนต์ของ S1000R มอบสมรรถนะอันยอดเยี่ยม BMW S1000R มีให้เลือก 3 เฉดสี ได้แก่ สีแดง Racing Red สีดำ Black Storm Metallic และ สีขาว Light White
BMW S1000RR : บิ๊กไบค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ต
BMW S1000RR บิ๊กไบค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ตหนึ่งเดียวของ BMW ดีไซน์สปอร์ตสะดุดตาด้วยการใช้เฉดสีที่หลากหลาย เพิ่มบุคลิกภาพที่ชัดเจนให้กับตัวรถ เน้นแนวทูโทนด้วยการเติมเต็มความเคร่งขรึมของสีดำ Black Storm Metallic หรือความปราดเปรียวของสีแดง Racing Red ที่ตัดด้วยสีขาว Light White หรือจะเป็นชุดสี tricolor เป็นเอกลักษณ์ ประกอบด้วย Light White, Lupin Blue Metallic และ Racing red BMW S1000RR วางเครื่องยนต์ 4 สูบ เพลาราวลิ้นคู่ ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน ขนาดเครื่องยนต์ความจุ 999 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 146 กิโลวัตต์ หรือ 199 แรงม้า ที่ 13,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงถึง 113 นิวตัน-เมตร ที่ 10,500 รอบต่อนาที อัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1 สั่งจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ระบบคลัทช์ทำงานด้วยกลไกแบบเปียกหลายแผ่นซ้อน สั่งงานด้วยเกียร์ 6 สปีด สำหรับรุ่นมาตรฐานในประเทศไทยให้โหมดขับขี่เป็นแบบโปร ซึ่งมีทั้งโหมด Rain, Sport, Race, Slick และUser
BMW S1000RR บิ๊กไบค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ตหนึ่งเดียวของ BMW ดีไซน์สปอร์ตสะดุดตาด้วยการใช้เฉดสีที่หลากหลาย เพิ่มบุคลิกภาพที่ชัดเจนให้กับตัวรถ เน้นแนวทูโทนด้วยการเติมเต็มความเคร่งขรึมของสีดำ Black Storm Metallic หรือความปราดเปรียวของสีแดง Racing Red ที่ตัดด้วยสีขาว Light White หรือจะเป็นชุดสี tricolor เป็นเอกลักษณ์ ประกอบด้วย Light White, Lupin Blue Metallic และ Racing red BMW S1000RR วางเครื่องยนต์ 4 สูบ เพลาราวลิ้นคู่ ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน ขนาดเครื่องยนต์ความจุ 999 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 146 กิโลวัตต์ หรือ 199 แรงม้า ที่ 13,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงถึง 113 นิวตัน-เมตร ที่ 10,500 รอบต่อนาที อัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1 สั่งจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ระบบคลัทช์ทำงานด้วยกลไกแบบเปียกหลายแผ่นซ้อน สั่งงานด้วยเกียร์ 6 สปีด สำหรับรุ่นมาตรฐานในประเทศไทยให้โหมดขับขี่เป็นแบบโปร ซึ่งมีทั้งโหมด Rain, Sport, Race, Slick และUser
BMW S1000RR : บิ๊กไบค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ต
BMW S1000RR บิ๊กไบค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ตหนึ่งเดียวของ BMW ดีไซน์สปอร์ตสะดุดตาด้วยการใช้เฉดสีที่หลากหลาย เพิ่มบุคลิกภาพที่ชัดเจนให้กับตัวรถ เน้นแนวทูโทนด้วยการเติมเต็มความเคร่งขรึมของสีดำ Black Storm Metallic หรือความปราดเปรียวของสีแดง Racing Red ที่ตัดด้วยสีขาว Light White หรือจะเป็นชุดสี tricolor เป็นเอกลักษณ์ ประกอบด้วย Light White, Lupin Blue Metallic และ Racing red BMW S1000RR วางเครื่องยนต์ 4 สูบ เพลาราวลิ้นคู่ ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน ขนาดเครื่องยนต์ความจุ 999 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 146 กิโลวัตต์ หรือ 199 แรงม้า ที่ 13,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงถึง 113 นิวตัน-เมตร ที่ 10,500 รอบต่อนาที อัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1 สั่งจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ระบบคลัทช์ทำงานด้วยกลไกแบบเปียกหลายแผ่นซ้อน สั่งงานด้วยเกียร์ 6 สปีด สำหรับรุ่นมาตรฐานในประเทศไทยให้โหมดขับขี่เป็นแบบโปร ซึ่งมีทั้งโหมด Rain, Sport, Race, Slick และUser
เทคโนโลยี ระบบ Dynamic traction-Control (DTC) ควบคุมความสัมพันธ์ในการทำงานระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง ระบบ Dynamic Damping Control (DDC) ที่ช่วยปรับการทำงานของช่วงล่างในเหมาะสมกับการขับขี่ โดยทุกระบบสามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
BMW Motorrad Thailand แจ้งราคาจำหน่ายอย่างไม่เป็นทางการสำหรับ BMW S1000R ประมาณ 635,000 บาท ส่วน BMW S1000RR ไม่เกิน 820,000 บาท สำหรับราคาที่แท้จริง กรุณาติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าตัวมอเตอร์ไซค์ของ BMW ทั้ง 3 รุ่น ได้ที่ตัวแทนจำหน่าย BMW Motorrad ทั่วประเทศ.
BMW Motorrad Thailand แจ้งราคาจำหน่ายอย่างไม่เป็นทางการสำหรับ BMW S1000R ประมาณ 635,000 บาท ส่วน BMW S1000RR ไม่เกิน 820,000 บาท สำหรับราคาที่แท้จริง กรุณาติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าตัวมอเตอร์ไซค์ของ BMW ทั้ง 3 รุ่น ได้ที่ตัวแทนจำหน่าย BMW Motorrad ทั่วประเทศ.
วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559
H2R วิ่งได้357km
H2R วิ่งได้357km
Kawasaki H2 ราคา 820,000 บาท และ Kawasaki H2R ราคา 1.6 ล้านบาท ที่สหรัฐฯ
หรับมอเตอร์ไซค์ทั้งสองนั้น มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 998 ซีซี ติดตั้งซูเปอร์ชาร์จ ให้กำลัง 300 แรงม้า ทำความเร็วได้ถึง 320 กม./ชม. โดยเจ้าเอช2 นั้นออกแบบให้มีสมรรถนะและอุปกรณ์สำหรับใช้งานบนถนน ส่วนเอช2อาร์ ออกแบบเพื่อสำหรับลงสนามแข่ง โดยเฉพาะแฟริ่งคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ
แน่นอนว่า คาวาซากิจะต้องนำเจ้าเอช2 มาทำตลาดทั่วโลก รวมทั้งเมืองไทยด้วย ซึ่งคาดว่าราคาจำหน่ายน่าจะสูงกว่าในสหรัฐฯ เล็กน้อย ส่วนจะเริ่มขายเมื่อไรก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ
Kawasaki H2 ราคา 820,000 บาท
Kawasaki H2R ราคา 1.6 ล้านบาท
คิดอย่างไรกับเรื่อง: Kawasaki H2 ราคา 820,000 บาท ด้าน H2R จัดไป 1.6 ล้านบาท ?
รอโหลดข้อความของเพื่อน ๆ ด้านล่างนี้สักครู่ แล้วร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้เลย !
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)